เบื้องหลังระบบ Dispute ของ FriendTrade: เราตัดสินยังไงให้แฟร์ทุกฝ่าย
เมื่อพูดถึงการซื้อขายออนไลน์ สิ่งที่หลายคนกลัวมากที่สุดคือ “เกิดปัญหาหลังจ่ายเงิน”
เช่น สินค้าไม่ตรงปก ผู้ขายไม่ส่งของ หรือผู้ซื้อไม่ยอมยืนยันรับของ
นี่คือเหตุผลที่ ระบบ Dispute (ระบบจัดการข้อพิพาท) ของ FriendTrade ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบ
เพื่อให้ทุกดีล — แฟร์ โปร่งใส และยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย
⚖️ Dispute คืออะไร?
Dispute หมายถึง “ข้อพิพาท” หรือ “ข้อขัดแย้ง” ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในระหว่างการทำดีล
ตัวอย่างเช่น:
- ผู้ซื้อบอกว่าสินค้าไม่ตรงกับที่สั่ง
- ผู้ขายยืนยันว่าส่งของครบแล้ว
- ทั้งสองฝ่ายมีหลักฐานคนละแบบ
ในสถานการณ์แบบนี้ FriendTrade จะเข้ามาเป็น “ผู้ไกล่เกลี่ยกลาง” (Arbiter)
โดยใช้ระบบ Dispute เพื่อพิจารณาหลักฐานจากทั้งสองฝ่าย ก่อนตัดสินอย่างเป็นธรรม
🔍 กระบวนการ Dispute ของ FriendTrade
เพื่อให้การตัดสินทุกเคสเป็นไปอย่างยุติธรรม FriendTrade ได้วางระบบที่ชัดเจน 4 ขั้นตอน ดังนี้:
1. แจ้งปัญหา (Raise a Dispute)
เมื่อเกิดปัญหาใด ๆ ในดีล ผู้ซื้อหรือผู้ขายสามารถกด “เปิดข้อพิพาท” ได้ในหน้ารายการดีล
ระบบจะให้ทั้งสองฝ่ายกรอกสาเหตุ พร้อมแนบหลักฐาน เช่น รูปภาพ ข้อความ หรือใบจัดส่งสินค้า
2. ตรวจสอบหลักฐาน (Evidence Review)
หลังจากเปิด Dispute ระบบจะรวบรวมหลักฐานของทั้งสองฝ่ายเข้าสู่ “ศูนย์พิจารณา”
ซึ่งประกอบด้วยระบบอัตโนมัติและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ FriendTrade
ทุกเคสจะถูกตรวจสอบอย่างเป็นกลาง ไม่เอนเอียงทั้งสองฝ่าย
3. วิเคราะห์ข้อมูล (Automated + Human Review)
FriendTrade ใช้การผสมผสานระหว่างระบบ AI และทีมตรวจสอบมนุษย์
AI จะช่วยสแกนข้อความ รูปภาพ และเอกสาร เพื่อจัดลำดับความน่าเชื่อถือของข้อมูล
จากนั้นทีมตรวจสอบจะทำการพิจารณาร่วมกันและตัดสินผลตามหลักฐานที่ได้รับ
ตัวอย่าง:
- หากผู้ขายแนบใบจัดส่ง + หมายเลขพัสดุจริง → คะแนนความน่าเชื่อถือสูง
- หากผู้ซื้อมีหลักฐานว่าสินค้าไม่ตรงปก → ระบบจะตรวจสอบรูปภาพเทียบข้อมูลต้นฉบับ
4. สรุปผลและคืนเงิน (Resolution)
หลังพิจารณา ระบบจะประกาศผลการตัดสินอย่างโปร่งใส
หากพบว่าผู้ซื้อถูกต้อง ระบบจะคืนเงินจาก Escrow ทันที
แต่หากผู้ขายปฏิบัติตามเงื่อนไขครบ ระบบจะโอนเงินให้ผู้ขายโดยอัตโนมัติ
🧩 หลักการตัดสินของ FriendTrade
FriendTrade ยึด 3 หลักการสำคัญในการตัดสินทุกข้อพิพาท:
🔸 1. Fairness – ความยุติธรรม
ทุกการตัดสินยึดตามหลักฐาน ไม่ตามอารมณ์หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
FriendTrade จะไม่โอนเงินจนกว่าจะตรวจสอบครบทุกด้าน
🔸 2. Transparency – ความโปร่งใส
ผลการพิจารณาทุกเคสจะถูกบันทึกในระบบ และสามารถดูประวัติย้อนหลังได้
ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่าไม่มีการลำเอียงหรือแทรกแซง
🔸 3. Evidence-Based – ใช้หลักฐานเป็นหลัก
ทุกการตัดสินต้องมีเอกสารหรือหลักฐานรองรับ เช่น รูปภาพ แชท ข้อมูลจัดส่ง หรือเอกสารยืนยัน
💡 ตัวอย่างสถานการณ์ Dispute จริง
กรณีที่ 1:
ผู้ซื้อแจ้งว่าสินค้า “ไม่ตรงปก” และแนบรูปถ่ายตอนเปิดกล่อง
ผู้ขายแนบหลักฐานการส่งของตามคำสั่ง
→ ทีมตรวจสอบพบว่ารูปสินค้าที่ส่งมามีรายละเอียดต่างจากประกาศจริง
ผลลัพธ์: ระบบคืนเงินให้ผู้ซื้อ
กรณีที่ 2:
ผู้ขายแนบใบจัดส่งและหลักฐานว่าได้ส่งสินค้าตรงตามรายการ
ผู้ซื้อไม่ตอบกลับภายในเวลาที่กำหนด
ผลลัพธ์: ระบบถือว่าดีลสมบูรณ์และโอนเงินให้ผู้ขาย
🔒 ทำไมระบบ Dispute ของ FriendTrade ถึงแตกต่าง
- 🧠 ใช้ AI ตรวจจับข้อมูลปลอม (Fake Evidence Detection)
- 🧾 ระบบ timestamp ตรวจสอบเวลาแนบหลักฐานอัตโนมัติ
- 🧍 ทีมตรวจสอบกลางจากหลายฝ่าย เพื่อป้องกันการลำเอียง
- 🪪 มี “ระบบยืนยันตัวตน (KYC)” ของคู่กรณีทุกฝ่าย
FriendTrade ไม่ได้มอง Dispute เป็น “ปัญหา” แต่เป็น “โอกาสในการสร้างความยุติธรรม”
เพื่อให้ทุกดีลเป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัยและโปร่งใสที่สุดสำหรับผู้ใช้
🚀 สรุป: ทุกดีลแฟร์ได้ ด้วยระบบ Dispute ของ FriendTrade
ระบบ Dispute ของ FriendTrade ถูกออกแบบเพื่อให้ทุกข้อพิพาทถูกพิจารณาอย่างยุติธรรม
ด้วยเทคโนโลยี AI + ทีมตรวจสอบมืออาชีพ เพื่อความมั่นใจสูงสุดของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
📍 พร้อมซื้อขายอย่างมั่นใจหรือยัง?
เริ่มต้นใช้งาน FriendTrade วันนี้
เพื่อให้ทุกดีลของคุณปลอดภัยและยุติธรรมในทุกขั้นตอน
👉 https://friendtrade.app
FriendTrade – ซื้อขายอย่างแฟร์ ปลอดภัยทุกดีล