เมื่อถูกโกงออนไลน์ ควรทำยังไง? คู่มือแจ้งความ + เก็บหลักฐานอย่างมืออาชีพ
การซื้อขายออนไลน์ในปัจจุบันสะดวกก็จริง แต่ก็เต็มไปด้วยมิจฉาชีพที่อาศัย “ช่องว่างของความไว้ใจ”
ไม่ว่าจะเป็นผู้ขายที่หายหลังรับเงิน หรือผู้ซื้อที่ไม่ยอมชำระหลังได้รับของ
บทความนี้จะช่วยคุณรู้ว่า — เมื่อถูกโกงออนไลน์ ควรทำอย่างไรให้ถูกต้องและทันเวลา
⚠️ 1. หยุดทุกการติดต่อ และรวบรวมข้อมูลทันที
ทันทีที่สงสัยว่าถูกโกง อย่ารีบโอนเพิ่มหรือส่งของเพิ่มเติม
ให้เริ่ม เก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ทันที เพราะ “ข้อมูลดิจิทัล” คือพยานสำคัญที่สุดในคดีลักษณะนี้
🔹 หลักฐานที่ควรเก็บ
- ภาพหน้าจอ (Screenshot) ของการสนทนา
- สลิปการโอนเงิน หรือรายการธุรกรรม (Transaction Slip)
- ข้อมูลบัญชีธนาคารหรือชื่อผู้ใช้ของอีกฝ่าย
- รูปสินค้าหรือโพสต์ต้นฉบับ
- หมายเลขพัสดุหรือเอกสารขนส่ง (ถ้ามี)
Tip:
ให้เก็บไฟล์ในรูปแบบดิจิทัล เช่น PDF หรือภาพชัดเจน เพราะตำรวจต้องใช้แนบในการแจ้งความออนไลน์
🕵️♀️ 2. ตรวจสอบข้อมูลคนโกงเบื้องต้น
ก่อนแจ้งความ ให้ลองตรวจสอบด้วยตัวเองก่อน
บางครั้งคุณอาจพบว่า “คนนี้เคยโกงคนอื่นมาแล้ว”
🔎 เว็บไซต์เช็กคนโกงที่นิยมใช้
- www.blacklistseller.com
- www.police.go.th/แจ้งความออนไลน์
- กลุ่ม Facebook เช่น “รวมพลคนโดนโกง”, “ตามหาคนโกงออนไลน์”
การค้นชื่อ / หมายเลขบัญชี หรือเบอร์โทร อาจช่วยยืนยันได้ว่าผู้โกงมีประวัติจริงหรือไม่
🧾 3. แจ้งความออนไลน์กับตำรวจไซเบอร์
ปัจจุบันสามารถ แจ้งความออนไลน์ได้โดยไม่ต้องไปสถานีตำรวจ
ผ่านเว็บไซต์ของ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.)
ขั้นตอนแจ้งความออนไลน์
- เข้าเว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com
- เลือกหัวข้อ “แจ้งความออนไลน์”
- กรอกรายละเอียดเหตุการณ์ และแนบหลักฐานทั้งหมด
- บันทึก “หมายเลขคดี” ที่ได้รับไว้เพื่อติดตามผลภายหลัง
💬 คำแนะนำ:
ให้ใช้คำอธิบายสั้น กระชับ และตรงประเด็น พร้อมแนบหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่มี
⚖️ 4. ติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชีผู้โกง
หากคุณรู้หมายเลขบัญชีที่ใช้ในการโกง ให้รีบติดต่อธนาคารปลายทางทันที
โดยแจ้งว่า “ถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีนี้” และต้องการ อายัดบัญชีชั่วคราว
เอกสารที่ควรเตรียม
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปโอนเงิน
- หมายเลขคดี (ถ้ามี)
- ภาพแชทหรือหลักฐานการซื้อขาย
บางธนาคารสามารถอายัดบัญชีได้ทันทีในเบื้องต้น หากพบว่ามีการร้องเรียนซ้ำจากผู้เสียหายหลายราย
💡 5. ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ: ใช้ระบบถือเงินกลาง (Escrow System)
แม้การแจ้งความจะช่วยติดตามได้ แต่ “ป้องกันไว้ก่อน” ย่อมดีที่สุด
นั่นคือเหตุผลที่ ระบบถือเงินกลาง (Escrow System) ของ FriendTrade ถูกออกแบบมาเพื่อปิดช่องว่างนี้
วิธีที่ระบบช่วยคุณป้องกันการโกง
- ผู้ซื้อฝากเงินเข้าระบบกลางก่อน → ผู้ขายส่งของ
- ระบบจะ ถือเงินไว้ชั่วคราว จนกว่าผู้ซื้อจะยืนยันได้รับสินค้า
- หากเกิดข้อพิพาท สามารถเปิด “Dispute” ให้ทีมกลางตรวจสอบตามหลักฐานจริง
- ทั้งสองฝ่ายมั่นใจได้ว่า เงินจะไม่ถูกโกง และการตัดสินจะเป็นธรรม
FriendTrade จึงไม่ใช่แค่ระบบถือเงิน แต่คือ “เกราะป้องกันการโดนโกงออนไลน์” ของทุกคน
🧠 6. เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ Marketplace และโซเชียล
- ตรวจสอบโปรไฟล์คนขาย/คนซื้อให้ละเอียด
- หลีกเลี่ยงการคุยนอกแพลตฟอร์มหลัก
- อย่าหลงเชื่อโปรโมชั่นหรือราคาที่ถูกเกินจริง
- เก็บหลักฐานการแชททุกครั้งก่อนโอนเงิน
- ใช้ FriendTrade เป็นตัวกลางทุกครั้งที่ทำธุรกรรมระหว่างบุคคล
🚀 สรุป: ถูกโกงไม่ใช่จุดจบ ถ้าคุณรู้วิธีจัดการอย่างถูกต้อง
หากคุณถูกโกง อย่าตกใจ — เก็บหลักฐาน แจ้งความ และป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
และที่สำคัญที่สุด ใช้ระบบถือเงินกลาง (Escrow System) เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกดีล
📲 ป้องกันการโดนโกงตั้งแต่ดีลแรกของคุณ
ทดลองใช้ระบบถือเงินกลางฟรีกับ FriendTrade วันนี้
👉 https://friendtrade.app/th
FriendTrade — ซื้อขายปลอดภัยกว่า ด้วยระบบถือเงินกลางที่แฟร์ที่สุดในไทย